เสาเอ็น ทับหลัง
เสาเอ็น ทับหลัง คือ เสาและคานขนาดเล็ก เสาเอ็นจะอยู่ด้านซ้ายและขวาของวงกบประตูและ หน้าต่าง ส่วนทับหลังจะอยู่ด้านบนวงกบประตู ส่วนหน้าต่างจะมีทับหลังด้านบนและด้านล่างของวงกบ
ขนาดของเสาเอ็น ทับหลัง ถ้าเป็นงานหลวงประมาณ 15 ซ.ม. บ้านทั่วไปประมาณ 10 ซ.ม. ผู้รับเหมาบางรายก็ไม่ทำให้ แต่ถ้าให้ดีควรจะ 20 ซ.ม.
ส่วนผสมของเสาเอ็น ทับหลัง คือ คอนกรีต ส่วนผสมของคอนกรีต คือ ปูนช้าง+หิน+ทราบหยาบ+น้ำสะอาด+เหล็กเส้น ส่วนมากผู้รับเหมาจะใช้ปูนเสือ+ทรายหยาบ+เหล็กเส้น โดยไม่ใส่หิน เนื่องจากถ้าใส่หินแล้วจะเทลำบาก บางรายไม่ใส่เหล็ก บางรายไม่ทำเสาเอ็น ทับหลัง แต่ก่ออิฐชนวงกบเลยก็มี(เยอะด้วย)
ผนังใหญ่ ๆ ที่ไม่มีหน้าต่าง ประตู ก็ต้องมีทับหลังด้วย คือ ก่ออิฐไปครึ่งหนึ่งทิ้งไว้ให้ผนังแห้งสัก 1-2 วัน แล้วทำแบบเพื่อเททับหลัง รอทับหลังแห้งสัก 1-2 วัน ค่อยแกะแบบ แล้วก่ออิฐต่อ อย่างก่อชนใต้คานทันทีควรรอสัก 1-2 วัน ให้ผนังก่ออิฐเซฟตัวก่อน แล้วยัดหัวปลาสร้อย(คือก่ออิฐเฉียง ๆ ประมาณ 45 องศา ใต้ท้องคาน)
ควรราดน้ำที่ผนังหลังจากปูนก่อแห้งแล้วสัก 2 วัน เพื่อความแข็งแรง
ทำไมต้องมีเสาเอ็น ทับหลัง ก็เพราะว่า ป้องกันการร้าวตรงมุมวงกบประตู หน้าต่าง(ร้าวเป็นแนวเฉียงๆ)
ทำไมถึงร้าว ก็เพราะว่า ถ้าเป็นวงกบไม้ จะมีการยืดและหดของไม้ บวกกับการเปิดปิดประตู หน้าต่างทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือน ซึ่งเป็นสาเหตุของการร้าว ในกรณีที่ไม่มีเสาเอ็น ทับหลัง
งานฉาบปูน
ก่อนการฉาบปูน เสา คาน เสาเอ็น ทับหลัง ต้องสลัดดอกก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันการล่อนของปูนฉาบ
บริเวณรอยต่อระหว่าง เสา คาน เสาเอ็น ทับหลัง ต้องใช้ลวดตาข่ายกรงไก่แบบหกเหลี่ยมกว้าง 10-15 ซ.ม. ขึงคล่อมระหว่าผนังก่ออิฐกับเสา คาน เสาเอ็น ทับหลัง ตลอดแนว โดยใช้ตะปูคอนกรีตตัวเล็กตอกยึดตาข่าย
ถ้าเป็นไปได้ผนังทิศตะวันตกและทิศใต้ ควรใช้ลวดตาข่ายขึงทั้งผนัง แล้วฉาบปูนทับ
ขึงตาข่ายเพื่ออะไร ก็เพื่อป้องกันรอยร้าวที่อาจเกิดขึ้นบริเวณรอยต่อของอิฐกับคอนกรีต ส่วนทางทิศตะวันตกและทิศใต้ ขึงเพื่อป้องกันรอยร้าวที่อาจเกิดขึ้นในวันข้างหน้า เพราะผนังด้านดังกล่าวจะถูกแดดเผา ต้องจับปุ่มบริเวณผนังที่กว้างมาก ป้องกันผิ;ปูนฉาบไม่เรียบ
หลังจากสลัดดอกและขึงตาข่ายแล้ว เย็นวันก่อนการฉาบปูนให้ราดน้ำที่ผนังที่จะฉาบให้ชุ่ม ในวันฉาบปูนก็ต้องร าดน้ำให้ชุ่มอีก เน้นบริเวณ เสา คาน ให้มาก ๆ เพราะเสา คาน จะดูดน้ำจากปูนฉาบ ถ้าราดน้ำบริเวณนี้น้อยเกินไป แล้วจะเกิดปัญหาปูนฉาบล่อนตามมา
วันรุ่งขึ้นหลังจากฉาบปูนเสร็จให้ราดน้ำที่ผนังอย่างน้อย 2 วัน ป้องกันการคลายน้ำเร็วเกินไป ซึ่งจะแก้ปัญหาปูนฉาบแตกลายงาได้
สาเหตุที่ผนังร้าว แตกลายงา เนื่องจาก ก่อนฉาบปูนราดน้ำน้อยเกินไป ทำให้อิฐดูดน้ำจากปูนฉาบ หรือผนังก่ออิฐไม่ตรง คดไปคดมา ทำให้บริเวณที่ฉาบต้องฉาบปูนหนาบ้าง บางบ้าง รอยต่อบริเวณปูนฉาบหนา-บางนี้จะเกิดรอยร้าวเนื่องจากปูนหดตัวไม่เท่ากัน หรือ ร้าวบริเวณเสาเอ็น ทับหลัง เนื่องจากเทปูนหนาหรือบางกว่าผนังก่ออิฐ ทำให้ปูนฉาบหนาไม่เท่ากัน ก็จะเกิดรอยร้าวได้ หรือ ส่วนผสมของปูนฉาบไม่ได้ตามสูตร หรือ ใช้ปูนที่หมดอายุ(ปูนหมดอายุ คือ ปูนเป็นเม็ดไม่เป็นผง หรือ ผสมปูนฉาบแล้วปล่อยทิ้งไว้นานเกิน 1 ช.ม.) ปูนฉาบควรผสมน้ำยาผสมปูนฉาบ ตามอัตราส่วนที่ระบุไว้ในฉลาก หรือใช้ปูนฉาบสำเร็จรูป แต่ต้องใส่น้ำตามปริมาณที่ผู้ผลิตกำหนด
ช่างฉาบส่วนมากจะไม่ยอมให้ราดน้ำที่ผนังมากๆ เพราะฉาบยาก จะอ้างว่าฉาบไม่ได้เดียวไม่แห้งปูนฉาบจะไหล ส่วนปูนฉาบมักจะผสมให้เหลวมาก เพราะว่าฉาบง่าย ไม่กินแรง แต่จะทำให้ผนังแตกลายงาได้เพราะน้ำในปูนฉาบมากเกินไป เวลาน้ำระเหยจะทำให้ปูนฉาบหดตัวมากจึงเกิดรอยร้าวแบบแตกลายงาได้
การฉาบผนัง 1 ด้าน ปกติจะฉาบกัน 1 วัน แต่เดี๋ยวนี้แค่ครึ่งวันก็เสร็จ เพราะผู้รับเหมาต้องการได้งานมาก ๆ จะรีบส่งงาน ซึ่งมีข้อเสียคือ รอยร้าว ผนังไม่เรียบเป็นคลื่น
ปกติครึ่งวันแรกจะฉาบรองพื้น แล้วใช้สามเหลี่ยมปาดปูนให้เรียบ พอตกบ่ายก็จะปั่นด้วยเกียง(ควรใช้เกียงที่ทำจากไม้ เพราะเกียงไม้ตัวเกียงจะไม่แอ่น ส่วนเกียง พีวีซี จะแอ่น) ตอนลงฟอง คือ ช่างฉาบจะใช้ฟองน้ำชุบน้ำแล้วบิดน้ำพอหมาด ๆ แล้ววางบนเกียง นำไปปั่นผิวปูน อย่าให้ช่างบิดน้ำออกจากฟองน้ำจนแห้ง เพราะถ้าฟองน้ำแห้ง ฟองน้ำจะเป็นตัวดูดน้ำปูนจากผนังที่ฉาบ ทำให้ผนังเป็นเม็ดทรายและแตกลายงาได้ หลังจากลงฟองเสร็จ ก็จะใช้ไม้กวาดดอกหญ้าปัดทรายที่ผนังออก
ขณะฉาบสังเกตพื้นด้วยว่ามีขี้ดินหรือไม่เพราะเวลาฉาบ ปูนฉาบจะตกลงพื้น ช่างฉาบจะนำปูนที่ตกไปใช้ใหม่ ถ้าพื้นสกปรกให้บอกช่างว่า ห้ามนำปูนที่หล่นมาฉาบ
อย่าลืมปูนฉาบที่ผสมแล้วมีอายุแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
บริเวณมุมผนัง 2 ผนังที่ชนกัน หรือมุมเสา ต้องใช้เหล็กฉากขูดปูนฉาบ เท่านั้น เพื่อที่จะได้ผนังที่มีเหลี่ยม และได้ฉาก ส่วนมากช่างไม่ทำให้
ผนังที่โดนแดด ขณะที่ฉาบปูนต้องมีผ้าใบขึงไว้กันแดดเผาปูนฉาบ
งานสี
หลังจากฉาบผนังเสร็จ ต้องรอผนังแห้งสนิทก่อน ใช้เวลาประมาณ 20 วัน ถ้าให้ดีต้อง 30 วันขึ้นไป แล้วค่อยทาสี ไม่เช่นนั้นจะเกิดการด่างของสี ถ้าเป็นสีที่ยืดได้แล้วละก้อ จะทำให้สีพองได้ ถ้าผนังยังไม่แห้ง
ถ้ามีรอยร้าวจากการฉาบที่ไม่ใช่เกิดจากโครงสร้างทรุดตัว ให้ใช้สีโป๊ว อุดรอยร้าว ยี่ห้อที่ควรใช้ คือ ไอซีไอ หรือ ทีโอเอ เท่านั้น เพราะยี่ห้ออื่นระยะยาวจะมีคราบเหลืองเกิดขึ้น แต่ถ้าทาสีด้วยสียืดได้ เช่น ทีโอเอ 7 in 1 ควรถามรายละเอียดจากร้านสี เพราะจะต้องใช้สีโป๊ว,สีรองพื้นสำหรับสีประเภทนี้
เทคนิคการโป๊วสีให้เนี้ยบ คือ หลังจากโป๊วแล้ว ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดบริเวณข้าง ๆ รอยร้าว หรือใช้แปรงสีฟัน ขัดบริเวณที่โป๊ว เพื่อทำสีโป๊วให้เป็นเนื้อเดียวกับปูนฉาบ ผนังจะมีเม็ดทราย ส่วนที่โป๊วจะเนียน จึงจะต้องทำวิธีดังกล่าวให้บริเวณที่โป๊วกลมกลืนกับผนัง ส่วนมากช่างไม่ทำอีก เพราะ เสียเวลา
ห้ามใช้ยิปซั่ม,ดินสอพลอง อุดรอยร้าวเด็ดขาด เพราะจะล่อนในภายหลัง ส่วนมากช่างชอบทำแบบนี้
ระวังสีปลอม สีที่ทาต้องไม่มีรอยเปิด แต่บางช่างมีวิธีเปิดแบบไม่มีล่องรอย โดยการใช้สีปลอมเทในถังสีจริงแล้วเทสีจริงทับหน้านิดหน่อยเพื่อความแนบเนียน วิธีพิสูจน์ ต้องดมกลิ่น หรือให้ทางบริษัทผู้ผลิตมาพิสูจน์
อย่าลืม...
-วัดขนาดตัวบ้านและพื้นที่รอบบ้าน ว่า ตรงกับแบบแปลนหรือไม่เพราะบางที่เขาลดขนาดลง ไม่ทำตามแบบ
-ดูท่อน้ำดี ว่าใช้อย่างหนา 13.5 หรือไม่ บางโครงการลักไก่ เอาท่อหนา 8.5 ใส่ให้บางจุด
-เคาะดูพื้นปูหินแกรนิต,กระเบื้อง ว่าล่อนหรือไม่
-มีการยึดน็อตหลังคาหรือไม่ อย่างน้อยควรยึดน็อตแถวเว้นแถว หรือไม่ก็ผูกลวด(ลวดกันสนิม คือ ลวดสีขาว)
-ฝ้ายิปซั่มในห้องน้ำเป็นแบบกันชื้นหรือไม่ ใช้ฝ้าแบบของลาดหรือไม่ ลอยแต่ของฝ้าต้องใช้ผ้าปิดทับแล้วฉาบยิปซั่ม
-อย่าลืมล้างท่อน้ำดี โดยการปล่อยน้ำทิ้งก่อนการใส่ก๊อกน้ำทุกจุด เพื่อที่จะล้างเศษกาว,เศษท่อพีวีซีและสิ่งสกปรกที่อยูุในท่อ
-พื้นไม้ให้ดูก่อนการทำสีว่าเป็นไม้ที่ตกลงกันหรือไม่ บางหมู่บ้านใช้ไม้เบญพรรณแล้วย้อมสีให้เป็นไม่มะค่า
-พื้นไม้จริงทุกชนิด "ห้าม" ปูชิิดผนังเด็ดขาด เพราะไม้จะขยายตัวในช่วงหน้าฝน จะทำให้ไม้เบ่งและระเบิดขึ้นได้ ควรเว้นใ้ห้ห่างจากผนัง 0.5-1 ซ.ม. แล้วใช้บัวพื้นปิดทับ
-อ่างล้างจานที่เป็นสแตนเลสห้ามโดนน้ำปูน เพราะจะด่างถาวร
-ควรเดินท่อน้ำ-ท่อไฟ ก่อนการก่ออิฐ ช่างชอบก่ออิฐ ฉาบปูนก่อน แล้วค่อยสกัดผนังเพื่อฝังท่อต่าง ๆ
-ท่อไฟจะมีสีเหลือง ขาว และท่อเหล็ก ห้ามใช้ท่อฟ้าที่เป็นท่อน้ำ หรือท่อเทาซึ่งเป็นท่อน้ำทิ้งแอร์ เพราะบางช่างใช้ท่อน้ำทิ้งแอร์เป็นท่อไฟ ห้ามเด็ดขาด เพราะมันบาง ไม่ทนความร้อน
-ท่อไฟ ท่อน้ำ ห้ามเดินคู่กัน
ข้อมูลโดย จากคุณ : amata-idea (amata-idea) จาก pantip.com
ไม่มีความคิดเห็น: